วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ศิลปะเด็กในสวนบ้านเพลิน 2012


น้องวิน อายุหกขวบกว่า
ในชัวโมงศิลปะ การทำงานของน้องวินเริ่มมีการปล่อยวางกับสิ่งที่ผิดพลาดบางแล้ว แกจะไม่ค่อย ซีเรียดเหมือนครั้งก่อนๆมา ทางด้านเทคนิด น้องเขายังเป็นเด็กที่สนใจกับเทคนิคใหม่ๆเสมอ โดยเฉพาะครั้งสุดท้ายที่เจอ น้องวินทำงานศิลปะ โยเอาเทคนิค ของครูฝรัง (ครูใคร่ สอนบางอย่างในการทำกิจกรรม เหมือนเอาน้ำยาทาสีเล็บกับกากเพชรผสมกัน ) น้องวินยังคงสนุกกับคาบของครูไคร่ เลยเอาเทคนิคน้ำยาทาสีเล็บ มาวาดรูป



 ส่วนภาพวิว ที่น้องวิน ชอบวาดในตอนนี้ หากสังเกตุดีๆ เริ่มมีการเปลี่ยนแปลง ในเรื่องของต้นไม้ที่เป็นฉากหน้า งครั้งโดนตัด บางครั้ง ต้นไม้เต็มต้น มีความเหมือนและแตกต่าง เปลี่ยนแปลงในรูปภาพเดียวกัน







น้องหยก อายุ 6 ขวบกว่าๆ
        


















  เป็นช่วงแห่งการใช้สัญลักษณ์และตั้งชื่อรูป
 เด็กๆในวัยนี้จะเริ่มต้นตั้งชื่อภาพเขียนของเขา และเริ่มเชื่อมโยงรูปที่เขาวาดกับวัตถุจากโลกที่อยู่รอบตัว  วัตถุที่อยู่คุ้นเคยรูปที่เขาวาดจะไม่เหมือนวัตถุชิ้นนั้น แต่จะบอกว่าเหมือน เขาสร้างสัญลักษณ์ขึ้นมาในใจ  ซึ่งสัญลักษณ์เหล่านี้ไม่ได้มีความสำคํญในระยะยาว เพราะรูปๆเดียวกันอาจหมายถึงสิ่งที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงเวลา เมื่อเวลาผ่านไป
 เริ่มแรก เด็กเหล่านี้จะตั้งชื่อ สิ่งที่เขาวาดเป็นชิ้นๆ เช่น ท้องฟ้า นก ผีเสื้อ ปลา  ช้าง

เรื่องม้าลาย
ม้าลาย ไปเดินเล่นกับเพื่อนแล้วหลงป่า มันก็ถูกขังในห้องตลอดเวลา มันก็หลงเข้าไปในโลกอมยิ้ม ก็เจออมยิ้มที่น่ากิน มันก็เลยกิน อมยิ้มมันมีพิษก็เลยสลบ
จากรูป ในรูปสิ่งที่เรามองเห็นเป็นรูปธรรมคือ พระอาทิตย์กับอมยิ้ม ส่วนอื่นที่เป็นรูปกากบาทสีส้มคือคอกม้าทีมีม้าลายอยู่ในนั้น บางส่วนของรูปที่เป็นนามธรรมถูกแท่งสีชอล์กแท่งใหญ่ๆระบายทับลงไป รูปที่เป็นนามธรรมเลยกลายเป็นรูป กึ่งนามธรรม (Semi abstract)     ในส่วนของเนื้อเรื่องที่น้องหยกเล่า อาจะมาจากการ์ตูนหรือหนังหรือนิทาน  แต่การผูกเรื่องตัวละครของน้อง มีความสัมพันธ์กันระหว่างตัวละคร (เนื้อเรื่องที่แต่งมีประธาน กริยา กรรมและส่วนขยาย)








น้องเนม อายุ 7 ขวบ


                จากกงานที่น้องเนม ทำงานศิลปะในวันแรก เขาจะเป็นเด็กที่ระมัดระวังสูง เช่นเวลาการระบายสี น้องจะระมัดระวังมาก ในการเจอกับผู้สอนครั้งแรก จนรู้สึกเกร็งๆในห้องห้องเรียน และทำงานได้ล่าช้ากว่าเด็กคนอื่น (การทำงานล่าช้าไม่ใช่ผลเสีย) เพียงแต่ระมัดระวังในการทำงาน

                น้องเนม ใช้เทคนิคเดียวกับ ศิลปินที่ชื่อ Pollock ในการเขียนรูป คือค่อยๆหยดสีลงบนกระดาษและหมุนไปรอบๆ

แจ็คสัน พอลล็อก (อังกฤษ: Jackson Pollok) เป็นจิตรกรชาวอเมริกันยุคศตวรรษที่ 20 และเป็นผู้นำขบวนการเขียนภาพแนวแอบสเตรค (Abstract-expressionism) พอลล็อกได้รับสมญานามว่า แจ๊ค เดอะ ดริปเปอร์ (Jack The Dripper) โดยใช้วิธีการเทสี หรือสาดสีลงบนผืนผ้าใบ ด้วยผลงานที่น่าสนใจ และวิธีการซึ่งเป็นเอกลักษณ์นี้ ทำให้เขามีชื่อเสียง และผลงานของเขาหลายๆชิ้นมีราคาสูงหลายล้านดอลล่าร์และปัจจุบันเป็นภาพเขียนที่มีการซื้อขายที่มีราคาสูงที่สุดในโลก
สิ่งที่น่าจะเหมือนกัน คือ ทั้งคู่ ค้นพบเทคนิคนี้โดยบังเอิญ

















น้องเพลิน อายุ 6 ขวบกว่าๆ



น้องเพลินพยายามคิดอยู่นานว่าจะเขียนอะไรดีบนแผ่นกระดาษ โดยเธอใช้ผืนทรายในการคิด ตอนแรกเธอก็ไม่กล้าจะวาดรูปนี้ลงบนกระดาษ เธอ แอบๆวาด ผู้สอนเลยบอกให้เธอวาดภาพนี้บนกระดาาก็ได้เธอเลย ยอมวาดงานของเธอลงบนแผ่นกระดาษ






















ผลงานน้องเพลิน รูปนามธรรม



Wassily Kandinsky คือจิตรกรชาวเยอรมัน เชื้อชาติรัสเซีย ผู้ให้กำเนิดศิลปะด้านพลังของอารมณ์ในแนวนามธรรม (abstract expressionism) Kandinsky เกิดที่ Moscow ประเทศรัสเซีย เมื่อ ค.ศ. 1866 ในครอบครัวที่มีฐานะดี เพราะสนใจกฎหมาย เศรษฐกิจ และการเมือง จึงเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย Moscow และสำเร็จการศึกษาเมื่ออายุ 27 ปี จากนั้นได้งานเป็นอาจารย์ที่คณะนิติศาสตร์ของมหาวิทยาลัย และในเวลาเดียวกันก็มีงานอดิเรกเป็นนักดนตรีสมัครเล่นด้วย   
สิ่งที่คล้ายกันของการทำงานของน้องเพลินและคาเนนสกี้ คือการใช้สีดำตัดเส้น บนกระดาษขาว แล้วค่อยระบายสีตามใจชอบ ภาพทั้งสองภาพเป็นภาพในแนวนามธรรม
มีบางครั้งที่ผู้สอนสังเกตว่า น้องเพลินบางครั้งยังไม่ค่อยมั่นใจในการสร้างสรรค์งานศิลปะ จึงเป็นสิ่งที่ผู้สอนและผู้ปกครองสมควรอย่างยิ่งที่จะให้กำลังใจ และกล่าวคำชมทุกๆครั้งที่น้องทำผลงานออกมา

















ผิงผิง 6 ขวบกว่าๆ

เป็นช่วงแห่งการใช้สัญลักษณ์และตั้งชื่อรูป
 เด็กๆในวัยนี้จะเริ่มต้นตั้งชื่อภาพเขียนของเขา และเริ่มเชื่อมโยงรูปที่เขาวาดกับวัตถุจากโลกที่อยู่รอบตัว  วัตถุที่อยู่คุ้นเคยรูปที่เขาวาดจะไม่เหมือนวัตถุชิ้นนั้น แต่จะบอกว่าเหมือน เขาสร้างสัญลักษณ์ขึ้นมาในใจ  ซึ่งสัญลักษณ์เหล่านี้ไม่ได้มีความสำคํญในระยะยาว เพราะรูปๆเดียวกันอาจหมายถึงสิ่งที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงเวลา เมื่อเวลาผ่านไป
 เริ่มแรก เด็กเหล่านี้จะตั้งชื่อ สิ่งที่เขาวาดเป็นชิ้นๆ เช่น ท้องฟ้า นก ผีเสื้อ ปลา  ช้าง
          แต่สำหรับผิงผิงแล้ว สามารถแต่งเรื่องประกอบภาพเป็นประโยคได้แล้ว

          เรื่องม้าโพนี่





รูปนี้เป็นรูปท้ายชั่วโมงของศิลปะครั้งที่สอง ที่ผิงผิงเรียนกับผู้สอน
ตอนนั้นผิงผิงมองไปที่กระดาษทิชชู่ และน้องหยิบกระดาษทิชชู่ เอามาทดลองเทคนิคที่อยากทำ คือการเอาทิชชู่จุ่มสีแล้วปั๊มลงไปบนกระดาษ ตามรูป มันอาจจะไม่เป็นภาพที่น่าเตะตาสำหรับผู้ปกครองหรือผู้ใหญ่  แต่ทว่า มันเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น เป็นบทเรียนที่น่าสนใจ สำหรับเด็กๆที่เรียนศิลปะในคาบเดียวกับเธอทั้งหมด น้องเป็นผู้นำบทเรียน ท้ายคาบเด็กๆทุกคนอยากเอากระดาษทิชชู่มาทำงานศิลปะแบบผิงผิง















ปิ้นปิ้น อายุ 8 ขวบ



















น้องสาวไหม เด็กตัวเล็กๆ พูดเก่งๆ อายุ 8 ขวบ






อ่านว่า สาวไหม 
ตัวแรกเป็นงู เพราะ S มาจาก snake แล้ว a ตัวที่2 กับตัที่ 5 เป็นมดเพราะมาจาก ant 
ตัว m เป็นลิงมาจาก monkey
ตัวสุดท้าย i เป็นรูปบ้านน้ำแข็งของชาวเอสกิโม igloo
ตัว o ตัวที่สาม เป็นปลาหมึกเพราะมันคือ octopus


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น