วันพฤหัสบดีที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2555

หลักการสอนศิลปะแบบ ZEN

หลักการสอนแบบ ZEN    คือการสอนแบบไม่สอน

หลักการสอนศิลปะแบบเซนมี  สามประการ ดังนี้
 1 ไม่สอนโดยตรง
2 ไม่บอกคำอธิบาย ชี้นำแบบยัดเยียด
3 ไม่ยึดรูปแบบ กฏเกนณ์ ระเบียบข้อบังคับ ชนิดตายตัว


     




 หัวใจของการสอนแบบ ZEN
คือ การสอนแบบไม่ยึดมั่น โดยเนื้อแท้แล้ว วิธีการสอนแบบ Zen  ขึ้นอยู่กับการสร้าง "โอกาส"
ของการเรียนรู้ รู้แจ้งภายในจิตใจ ของผู้เรียน อย่างฉับพลัน ซึงอาจจะเป็นนการเรียนรู้ที่เกิด จาก การสอนของครูหรือ เกิดจากการค้นพบ ด้วย ตัวของผู้เรียนเองได้
 ดังนั้น  หลักการสอนศิลปะแบบเซ็นจึงไม่ได้อยู่ที่รูปแบบ หรือ ผลงานสำเร็จ แต่คุณค่า ทีแท้ นั้นขึ้นอยู่กับ จิตใจและความเชื่อมั่น ในการแสดงออกอย่างอิสระเสรี เพื่อปลูกฝังให้เกิดความรัก ความเข้าใจในคุณค่าของศิลปะ ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

เด็กเรียนรู้จากสิ่งที่เขาเติบโตขึ้นมา






ถ้าเด็กเติบโตมากับคำตำหนิ 
เขาจะสงสัยตัวเอง
ถ้าเด็กเติบโตมากับความเฉยเมย
เขาจะรู้สึกไร้ค่า
ถ้าเด็กเติบโตมากับความอับอาย
เขาจะรู้สึกผิด
ถ้าเด็กเติบโตมากับความหวาดกลัว
เขาจะวิตกกังวล
ถ้าเด็กเติบโตมากับกำลังใจ
เขาจะมีความเชีื่อมั่น
ถ้าเด็กเติบโตมากับคำยกย่องชมเชย
เขาจะเห็นคุณค่าของตัวเอง
ถ้าเด็กเติบโตมากับการยอมรับนับถือ
เขาจะยอมรับนับถือตนเอง
ถ้าเด็กเติบโตมากับความรัก
เขาจะรักตนเองและผู้อื่น
ถ้าเด็กเติบโตมากับความั่นคงปลอดภัย
เขาจะรู้สึกว่าโลกนี้เป็นที่ๆน่าอยู่
ถ้าเด็กเติบโตมากับความสงบ 
เขาจะมีสันติสุขในจิตใจ
 
     จากหนังสือ Everrest
 ศาสตราจารย์ พญ อุมาพร ตรังคสมบัติ

ช่วงวัยในการแสดงออกทางด้านศิลปะของเด็ก (ตามธรรมชาติ)


อายุ 2-4 ขวบ


 เรียกช่วงวัยนี้ว่าศิลปะแบบขีดเขีย  และเด็กวัยนี้จะพยายาม ฝีกความเคยชินกับอุปกรณ์และวัสดูนิดต่างๆ มีการใช้มือและการเคลื่นไหวกร้ามเนื้อ

ช่วงขีดเขี่ย ทันทีที่เด็กจับดินสอเป็น เขาจะเริ่มขีดเขี่ย ขีดเขียนไปทุกที่ ถ้าเป็นกระดาษหรือพื้นผิวที่ทำให้ดินสอเขียนติด เด็กก็จะเขียนลงไปบนนั้น ไม่ได้แสดงถึงสิ่งใดเป็นการเฉพาะ แต่เป็นความ ทำความคุ้นเคยกับวัสดุที่เขาจับต้อง
บางครั้งหากถูกถามว่าวาดรูปอะไรก็คิดตั้งชื่อภาพนั้น เดี่ยวนั้น

บ่อยครั้งที่เด็กๆรุ่นราววัยนี้จะชอบเขียนลงบนกำแพงและฝาบ้าน และพ่อแม่ผู้ปกครอง ก็สั่งห้ามไม่ให้เขียน เพราะพวกเขาเหล่านั้น กลัวกำแพงบ้านแสนสวนเลอะเทอะ ซึ่งการห้ามและดุด่านั้นทำให้ เป็นการกีดกั้น ความต้องการ และจินตนาการของเด็ก และเป็นครั้งแรกที่จะลดทอน ความมั่นใจของเด็กในการสร้างสรรค์งานศิลปะลง

ข้อแนะนำ
         พ่อแม่และผู้ปกครอง ไม่ควร ดุด่าและขวางกั้นจิตนนาการของเด็กอย่างนั้น แต่ควรจะหาเศษกระดาษ และสี หรือ อุปกรณ์วาดภาพ  ให้เด็กเริ่มฝึกฝนการใช้กล้ามเนื้อมือของเขา และเริ่มฝึกฝนให้เขาใช้จิตนาการของเขา และผู้ปกครองควร เป็นฝ่ายรับฟังว่าเขาต้องการเสนออะไรเกียวกับภาพเขียนของเขาดวยการช่วยส่งเสริมทางอ้อมโดยการพูดคุย หรือซักถามสิ่งที่เขาวาดลงไป ว่าคือ สิ่งใด คืออะไร มีชื่อไหม หรือ ลูกเคยเห็นที่ไหนมา นี่เป็นจุดเริ่มต้นให้ลูกของท่าน เป็นคนมั่นใจในตนเอง และเป็นเด็ก ช่างสังเกตุ




อายุ 4 -6 ขวบ

เป็นช่วงแห่งการใช้สัญลักษณ์และตั้งชื่อรูป
 เด็กๆในวัยนี้จะเริ่มต้นตั้งชื่อภาพเขียนของเขา และเริ่มเชื่อมโยงรูปที่เขาวาดกับวัตถุจากโลกที่อยู่รอบตัว  วัตถุที่อยู่คุ้นเคยรูปที่เขาวาดจะไม่เหมือนวัตถุชิ้นนั้น แต่จะบอกว่าเหมือน เขาสร้างสัญลักษณ์ขึ้นมาในใจ  ซึ่งสัญลักษณ์เหล่านี้ไม่ได้มีความสำคํญในระยะยาว เพราะรูปๆเดียวกันอาจหมายถึงสิ่งที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงเวลา เมื่อเวลาผ่านไป
 เริ่มแรก เด็กเหล่านี้จะตั้งชื่อ สิ่งที่เขาวาดเป็นชิ้นๆ เช่น ท้องฟ้า นก ผีเสื้อ ปลา  ช้าง


                                                    
  อายุ 7-8 ขวบ


     ช่วงที่พ้นจาการเป็นเด็กเล็ก เริ่มเข้าสู่ความเหมือนจริงตามตาเห็น
 เมื่อเด็กๆ เริ่มผ่านประสบการณ์ในวัยเด็กเล็ก เด้ก็เริ่มสังเกตุแง่มุมใหม่ๆ ของวัตถุชิ้นเดียวกัน ซึงจะส่งผลอิทธิพลต่อรูปทรงหรือแม้กระทั่งรูปแบบของสัญลักษณ์นั้น ยกตัวอย่างเช่น
หน้าคนที่ตอนแรกจะวาดเป็นรูปวงกลมใหญ่ๆกับวงกลมเล็กๆ สองวงแทนลูกตาทั้งสองข้าง ซึ่งต่อมาก็เริ่มมีปากและก็จมูก ปากกับจมูกอาจจะเป็นแค่เส้นเล็กๆสองเส้น เส้นหนึ่งตั้งและเส้นหนึ่งนอน
และเมื่อถึงเวลาของมัน รายละเอียดส่วนอื่นก็เริ่มปรากฎขึ้น เช่น หู ผม คอ เมื่อเด็กพัฒนาการสังเกตุด้วยตาที่จะรู้จักมองวัตถุด้วยความเป็นจริง รายละเอียดเหล่านี้จะดูเหมือนจริงมากขึ้น
ความเหมือนจริงตามตาเห็นนี้ อาจจะมีเหตุผลอื่นอยู่เบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงและจนถึงขั้นนี้ เด็กจะมีลักษณะที่อยู่ในโลกส่วนตัวขงตัวเอง ทุกอย่างที่เขามองเห็นหรือสัมผัสรู้ ถูกตีความด้วยการเอาตัวเองเห็นหลัก  ตอนนี้เขาเริ่มสัมผัสสิ่งต่างๆตามความเป็นจริงและโลกของเขาเริ่มซับซ้อนมากขึ้น เขาจะเริ่มสร้างความสัมพันธ์กับสิ่งรอบตัว และเขาจะเริ่มออกมาจากโลกของตัวของตัวเอง
               เด็กในวัยนี้จะเริ่มวาดรูปที่มาจากนินทาน หรือตัวการ์ตูน ที่เขาเริ่มดูและอ่าน

อายุ  9-10ขวบ

ช่วงเวลาออกจากโลกจิตนาการ เริ่มมองเห็นความเหมือนจริงมากขึ้น
เด็กๆพยายามทำทุกอย่างแบบเดียวกับที่ผู้ใหญ่ในชีวิตของเขาทำ ไม่ใช่เพราะเขารู้สึกว่าเขาเป็นผู้ใหญ่ แต่เพราะเขาต้องการจะเก่งเท่าผู้ใหญ่ กรณีของการทำงานศิลปะเด็กจะเป็นตัวของตัวเองต่อไป ตราบเท่าที่เขายังไม่เริ่มมองเห็นโลกตามความเป็นจริงมากขึ้น การรับรู้โลกภายนอกจะส่งปลกระทบต่อแรงจูงใจที่เขาเริ่มแสดงออก
         ในขั้นนี้เด็กจะรู้สึกขาดกำลังใจอย่างที่เคยมีในช่วงแรกๆของการแสดงออกทางด้านศิลปะ เขาจะคาดหวังให้ตัวเองวาดรูปได้เหมือนที่ผู้ใหญ่วาด (เด็กจะเริ่มคิดแต่อาจจะยังทำไม่ได้)  

 อายุ 11-14  ปี

ช่วงต้นของความเป็นวัยรุ่นกับความสับสน

 อายุ หลัง 14ปีขึ้นไป

ช่วงแห่งความเป้นไปได้ ของการฟื้นฟู ความสามารถในเชิงศิลปะ





สอนศิลปะเด็กแบบ zen

  • ฉันฟังแล้ว    ฉันก็ลืม
  • ฉันเห็น  ฉันยังจำได้
  • ฉันทำ ฉันจึงเข้าใจ


ภาพประกอบน้อง yoda boo  
อายุ สองขวบเก้าเดือน